อาจจะฟังดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าหากแฮมสเตอร์อยู่ในจุดที่ร้อนเกินกว่าร่างกายจะรับไหว ก็อาจทำให้น้องแฮมสเตอร์เสียชีวิตได้เลยนะ! เนื่องจากอุณหภูมิสภาพแวดล้อมที่พอดีกับร่างกายของน้องๆจะอยู่ที่ประมาณ 20-22 องศาเซลเซียส แต่ด้วยสภาพอากาศบ้านเราโดยเฉพาะในฤดูร้อนที่ร้อนฉ่า อาจส่งผลให้อุณหภูมิิในร่างกายของน้องหนูนั้นสูงขึ้นและระบายความร้อนออกไม่ทัน จนเกิดอาการฮีทสโตรกได้ ดังนั้นเราจึงต้องคอยสังเกตอาการของน้องแฮมสเตอร์ในช่วงนี้ให้ดี เพื่อจะได้เตรียมรับมือและดูแลน้องได้ทัน…

เรามาเริ่มเช็คอาการเบื้องต้นที่สามารถเห็นได้ชัดกันเลย 

อาการเริ่มแรกที่สังเกตเห็นได้คือ

แฮมสเตอร์จะดูอ่อนเพลีย ทานอาหารน้อยลง แต่จะดื่มน้ำมากขึ้น สำหรับใครที่ใช้ชามอาหารเซรามิกหรือดินเผา น้องๆอาจจะแอบนอนในนี้ได้ เพราะในชามจะเย็นเป็นพิเศษ หรือบางทีก็นอนทับฉี่ตัวเองไปเลย เพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคผิวหนัง ขนร่วง หรือปอดบวมได้ 

อาการขั้นรุนแรงคือ

แฮมสเตอร์จะตัวเปียก ซึ่งเกิดจากเหงื่อที่ไหลออกตามตัวและบริเวณรอบคอ เกาขนตัวเองออกเพื่อระบายความร้อนจนขนร่วงเว้าแหว่ง น้องๆจะหายใจเร็วมากขึ้น หงุดหงิด และนอนนิ่งไม่ค่อยขยับตัวเคลื่อนไหว 

วิธีดูแลแฮมสเตอร์เบื้องต้นเพื่อให้ร่างกายและใจเย็นลง 

– ห้ามพาแฮมสเตอร์ออกนอกบ้าน เพราะอากาศภายนอกมีอุณหภูมิสูงมาก อาจทำให้น้องช็อกเสียชีวิตได้
– หมั่นเช็กขวดน้ำดื่ม อย่าปล่อยให้น้ำหมด
– ใช้ชามหรืออุปกรณ์ตกแต่งกรงที่เป็นเครื่องดินเผา กระเบื้อง หรือเซรามิก เพื่อเพิ่มจุดทำความเย็นในกรง
– ลดปริมาณการใส่ขี้เลื่อยให้น้อยลง
– เปิดพัดลมเบาๆ หรือวางกรงไว้ในห้องแอร์ หากจะปิดแอร์ต้องค่อยๆ ปรับเพิ่มอุณหภูมิ เช่น จาก 25 ไป 27 แล้วเปลี่ยนมาเปิดพัดลมเบาๆ เพื่อไม่ให้อุณหภูมิเปลี่ยนฉับพลัน
– ให้น้องๆทานผักและผลไม้สดช่วยดับร้อน แต่ต้องระวังเรื่องความสะอาดของกรงให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจเน่าเสียกลายเป็นเชื้อโรคแทนได้